รู้จักกับมืออาชีพ วิศวกร สถาปนิก มัณฑนากร ผู้รับเหมา
สาระน่ารู้เกี่ยวกับสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน เรื่องคิดจะสร้างบ้านต้องอ่านตรงนี้ ก่อนจะคิดปรึกษาใคร เรามาดูก่อนว่ามืออาชีพแต่ละท่าน มีหน้าที่อย่างไรในขั้นตอนการออกแบบ
- วิศวกร หลักๆก็คือวิศวกรโยธา หรือ วิศวกรโครงสร้างนั่นเอง หน้าที่คือออกแบบโครงสร้างสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านทางด้านความแข็งแรงตามโจทย์ที่สถาปนิกให้มา สำหรับอาคารขนาดกลาง หรือ ขนาดใหญ่ ต้องมีวิศวกรสุขาภิบาล ไฟฟ้า ปรับอากาศ แยกตามสาขาความเชี่ยวชาญวิศวกรมักมีความเชี่ยวชาญสูงในงานสาขาของตนเอง มีความรอบคอบ มองโลกในแง่ความเป็นจริง มีระเบียบวินัย
- สถาปนิก เป็นหัวหน้าทีมออกแบบ และกำหนดภาพรวม ตามความต้องการของเจ้าของงานสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน และประสานงานกับผู้ออกแบบแต่ละฝ่าย สำหรับงานเล็กๆ รูปแบบที่ง่ายที่สุดคือสถาปนิกออกแบบรูปร่าง และ ผังอาคาร แล้วให้วิศวกรโครงสร้างออกแบบโครงสร้าง สำหรับอาคารขนาดกลางถึงใหญ่สถาปนิกจะเป็นผู้ประสานงานวิศวกรฝ่ายต่างๆ และ มัณฑนากร (ถ้ามี)สถาปนิกมักจะมีความรู้กว้างขวาง ทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรมสาขาต่างๆ (แต่ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญมาก) มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถเข้าใจความต้องการของเจ้าของงาน ประสานงานได้ดี
- มัณฑนากร หรือผู้ออกแบบภายในสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน สำหรับงานที่เน้นความสวยงามหรือศิลปะ มักจะเป็นคนที่มีความรู้สึกละเอียดอ่อน มีเซนส์ทางด้านศิลปะ หลายๆครั้งคำว่ามัณฑนากร อาจจะคาบเกี่ยวซ้อนทับกับคำว่า สถาปนิก
- ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาที่มีพื้นฐานมาจากวิชาชีพใดก็มักจะมีลักษณะตามวิชาชีพนั้น แน่นอนว่าผู้รับเหมาย่อมมีความเชี่ยวชาญทางด้านการปฏิบัติ แต่บางครั้งถูกมองว่าพยายามลดต้นทุนมากเกินไป ผู้รับเหมาที่ไม่ได้มีพื้นฐานจากกลุ่มวิชาชีพหลายรายไม่เข้าใจเรื่องคุณภาพงานเท่าที่ควร
การตกแต่งภายในสามารถเปลี่ยนตึกแถวอายุสามสิบปีเป็นห้องที่ดูทันสมัยสวยงานน่าอยู่
คิดสร้างบ้าน หรือสิ่งก่อสร้าง ปรึกษาใคร
เมื่อทราบแล้วว่าใครทำหน้าที่อะไร คุณคงพอเดาได้แล้วใช่ไหมครับว่าหากต้องการสร้างบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านควรปรึกษาใคร โดยหลักการก็ต้องเป็นสถาปนิกนั่นเอง เนื่องจากสถาปนิกเป็นเหมือนตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพที่สามารถประสานงานฝ่ายต่างๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจทำได้หลายวิธี เช่น
- บ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ออกแบบบ้านขนาดพื้นที่ไม่เกิน 150 ตารางเมตร ซึ่งกฎหมายไม่บังคับใช้สถาปนิกออกแบบ คุณอาจใช้สถาปนิกออกแบบเพื่อความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยที่ดี หรือ อาจจะปรึกษาวิศวกรคนเดียวพอ โดยคุณเป็นสถาปนิกเอง นั่นหมายถึงคุณควรจะมีความรู้ความสนใจในเรื่องบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านเรื่องความสวยงามต่างๆ ซึ่งพื้นที่อาคารขนาดนี้ไม่ยากสำหรับผู้สนใจใฝ่รู้ครับ
- บ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านขนาดพื้นที่ 150 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องใช้สถาปนิกออกแบบอยู่แล้ว สำหรับงานที่ต้องการรูปแบบหรือสไตล์เฉพาะเจาะจง ควรจะดูผลงานและความถนัดของสถาปนิกว่าใกล้เคียงกับรูปแบบที่ต้องการหรือไม่
- ใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ออกแบบบ้าน ซึ่งจะมีแบบบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ออกแบบบ้านที่ออกแบบไว้แล้ว น่าจะปรึกษาสถาปนิกของบริษัทได้ครับ สะดวกดีเหมือนกัน ยกเว้นจะไม่มีแบบที่ใกล้เคียงกับความต้องการอาจต้องปรับแก้บ้างครับ
ไม่มีกฎตายตัวนะครับ แล้วแต่สภาพงาน การให้ผู้รับเหมาหรือเจ้าหน้าที่เขตออกแบบต้องดูอีกทีว่าผู้ออกแบบมีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน และแบบเรามีความยากง่ายเฉพาะเจาะจงแค่ไหน หรือคุณต้องการแบบคุณภาพดีแค่ไหนครับ
สร้างบ้านแบบลุยเอง กับแบบเสี่ย
คราวนี้มาถึงขั้นตอนการสร้าง คุณอาจจะทำได้หลายวิธี หลักๆมีดังนี้
- ใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ออกแบบบ้านหรือผู้รับเหมาที่มีชื่อเสียง รับเหมารวมทั้งหมดจะสะดวก หลายๆที่มีแบบบ้านสำเร็จให้เลือก และมักจะมีประกันผลงานในระยะเวลาต่างๆที่กำหนด สำหรับบริษัทที่มีชื่อเสียง ค่าก่อสร้างจะราคาแพงกว่าผู้รับเหมาทั่วไป อาจจะคุ้มถ้ามีช่างเทคนิคควบคุมงาน มีวิศวกร/สถาปนิกดูแล และได้ผลงานที่ดีครับ
- หรืออาจจะใช้ผู้รับเหมาย่อยแล้วคุณบริหารงานเอง ซึ่งแนะนำให้ทำได้เฉพาะท่านที่มีความถนัดทางช่างอยู่พอตัวและมีเวลามาดูแลมากๆครับ หากเป็นคุณผู้หญิงตัวคนเดียวน่ากลัวว่าคุณภาพงานจะไม่ดี และงบจะบานปลายกว่าการใช้บริษัทรับสร้างบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านอีกครับ
- จ้างผู้รับเหมาย่อยเหมือนข้อ 2 แล้วจ้างที่ปรึกษา/ควบคุมงาน มาช่วยดูแลอีกที
ถ้าต้องการความสะดวกต้องข้อ 1 ถ้าต้องการราคาถูกเป็นข้อสอง (แต่เหนื่อยหน่อยนะครับ) ดูปัจจัยต่างๆประกอบด้วยครับ
ฮวงจุ้ย คิดก่อนเชื่อ
ปัจจุบันนี้กระแสความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมีบทบาทมากในการกำหนดรูปแบบสิ่งก่อสร้างสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านในเมืองไทย ไม่เพียงแต่ในหมู่ชาวจีน แต่คนไทยก็ยังได้รับอิทธิพลความเชื่อนี้ด้วย แน่นอนว่าตัวผมเองไม่สามารถถึงกับชี้ถูกผิดในหลักวิชานี้ได้ทั้งหมด แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของคนที่เชื่อจำนวนมาก ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองด้วยเหตุผล เป็นการเชื่อตามกันอย่างง่าย แบบที่คนชอบไปขูดหาตัวเลขตามต้นไม้
ความจริงแล้วฮวงจุ้ยมิใช่สิ่งเหลวไหล หากแต่เกิดจากการสั่งสมวิชาความรู้ของคนรุ่นก่อนๆมา (ไม่ว่าจะถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ก็ตาม) แต่ปัญหาที่ผมยังสงสัยคือวิธีการถ่ายทอดวิชาที่แฝงมาในรูปของไสยศาสตร์ การอธิบายอย่างอ้อมค้อมไม่ตรงประเด็น การสร้างบรรยากาศที่ดูน่ากลัวหากฝ่าฝืนข้อห้าม ซึ่งทำให้ผู้ที่ศึกษาขาดการคิดค้นหาเหตุผลที่แท้จริงของเนื้อหาวิชา และไม่สามารถปรับแก้วิชาให้เข้ากับสถานการณ์ที่ต่างกัน การใช้หลักการตายตัวที่ใช้ในเมืองจีนจะใช้ได้ในเมืองไทยหรือไม่ หากมีผู้ศึกษาที่มีปัญญาแยกแยะ ค้นคว้าอย่างลึกซึ้งคงจะดีไม่น้อย
ผมขอยกตัวอย่างความเชื่อบางเรื่องซึ่งความจริงแล้วเราสามารถเข้าใจได้ด้วยสามัญสำนึก ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก หรือเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ แต่หมอฮวงจุ้ยกลับไม่ยอมบอกเหตุผลตรงๆ และเลี่ยงไปใช้คำอธิบายแบบไสยศาสตร์
- ประตูห้องตรงกันจะทำให้บาดหมางกัน อันนี้เป็นความรู้สึก วิธีแก้คือให้เจ้าของห้องหารูปตัวเองกำลังยิ้ม หรือแจกันดอกไม้ แขวนไว้หน้าห้อง
- สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านเตียงนอน ห้ามหันปลายเท้าไปยังประตูห้อง อาจจะเป็นสัญชาติญาณการระวังภัยอย่างหนึ่ง
- บ่อน้ำทางทิศใต้ ทำให้ตาบอด ที่เมืองจีนพระอาทิตย์จะอ้อมใต้เกือบทั้งปี(จีนภาคใต้ — ส่วนตอนกลางตอนเหนือทั้งปี) โดยเฉพาะเดือนมกราคมแสงแดดจะทะแยงมาจากทิศใต้มาก หากมีบ่อน้ำในทิศใต้แล้ว แสงอาทิตย์จะสะท้อนผิวน้ำเข้าตาได้ง่าย เมืองไทยเราก็อยู่ทางซีกโลกเหนือเช่นกัน แต่องศาต่ำกว่ามาก การสะท้อนแสงดังกล่าวอาจจะมีได้ในช่วงประมาณเดือนมกราคม คือปลายปีต่อต้นปีนี้ไม่กี่เดือน การแก้ไขคือปลูกไม้น้ำเช่นบัวคลุมผิวน้ำ หรือปลูกต้นไม้บัง
- บ้านไทยชั้นล่างเป็นเสาไม่มีผนัง ไม่มั่นคง บ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านคนจีนมักจะสร้างด้วยการก่ออิฐเป็นผนังหนาๆรับน้ำหนักหลังคา ซึ่งวัสดุชนิดนี้ไม่เหมาะที่จะใช้ทำเสาสูง อาจจะเปราะหักลงมาได้ ต่างจากไม้ซึ่งมีความยืดหยุ่น และการเข้าไม้ที่ดีก็สามารถทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงได้ ปัจจุบันเรามีคอนกรีตเสริมเหล็กด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว
- ทางสามแพร่ง แหล่งรวมกระแสชี่(ขี่)ร้าย ตำแหน่งบ้านที่ถูกแนวถนนพุ่งใส่จะต้องมีปากัว(โป๊ยก่วย)คือยันแปดทิศของคนจีน หรือสิงโตคู่รับเอาไว้ แน่หละครับตำแหน่งดังกล่าวมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุรถพุ่งชนได้ การใช้เครื่องลางต่างๆจะเป็นการเตือนสติผู้ขับรถให้เกิดการตื่นตัว หรือการปลูกต้นไม้ใหญ่บัง การก่อผนังบัง ก็ช่วยป้องกันหากมีรถพุ่งเข้าชน
- ทางลงสะพานกระแสชี่แรงเกินไป ไม่ควรทำทางเข้า เพราะว่ารถที่ลงจากสะพานจะพุ่งมาด้วยความเร็ว อีกทั้งก่อนขึ้นสะพานจะมองไม่เห็นบริเวณปลายทางอีกด้านซึ่งถ้าประมาทขับเร็วเกินไปเมื่อเจอสิ่งกีดขวางอาจจะเบรคไม่ทันได้ อันตรายตรงนี้จะลดลงได้มากสำหรับถนนที่ทำใหม่ในระยะหลังๆ คือการทำโค้งของสะพานไม่ให้โค้งมากเกินไป(คือใช้รัศมีความโค้งมากๆ) ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นไปได้ไกลหลายสิบเมตร ซึ่งเป็นระยะที่เพียงพอในการหยุดรถ
- ทางโค้งต่างๆมักจะเป็นจุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่นเดียวกัน ถนนสมัยใหม่จะถูกออกแบบให้มีรัศมีความโค้งมากพอที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นได้ไกลพอที่จะหยุดรถทัน
- เช่นเดียวกันคือทางโค้ง ทางเชื่อม จุดตัด สามแยกสี่แยกต่างๆ ที่ฮวงจุ้ยถือว่าเป็นจุดอันตราย สามารถลดปัญหาได้โดยการออกแบบเรขาคณิตของผิวถนน (geometric design) ตามหลักวิศวกรรมการทาง(highway engineering) การติดตั้งป้ายสัญญาณ และพฤติกรรมของผู้ขับขี่
- ห้ามมีห้องน้ำกลางบ้าน ซึ่งทำให้ระบายอากาศอับชื้นออกนอกบ้านได้ยาก
- ตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวจะอยู่ทางซ้ายของบ้าน(เมื่อหันหน้าออกไปยังหน้าบ้าน) เนื่องจากนิสัยถนัดมือขวาของคนส่วนใหญ่
- และอยู่ด้านหลัง เพราะจะมองเห็นผู้น้อยอยู่ในสายตาตลอด
ยังมีอีกมากครับ ลองสังเกตดูละกัน ที่สำคัญคือวิชาความรู้ที่จะทำให้คนเราพัฒนาคือวิชาที่สอนให้รู้จักคิด ปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่สอนให้เชื่อตามแบบนกแก้วนกขุนทอง หรือขู่ให้กลัวไม่กล้าคิดอะไร อย่าลืมว่าคำว่า ฮวงจุ้ย แปลว่า ลมและน้ำ หมายถึงความเข้าใจในธรรมชาตินั่นเอง หากเรายึดติดกับกากวิชาตายตัวโดยไม่สนใจเนื้อแท้คือการศึกษาธรรมชาติ (physics) เราอาจจะได้สิ่งก่อสร้างที่ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ ใช้งานไม่สะดวกตามที่ควรจะเป็น และวิชาการนั้นจะไม่เจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง
หาผู้รับเหมาสร้างบ้าน ไม่โกง ไม่โก่ง ไม่กด
สำหรับคนที่ไม่เคยสร้างบ้าน ตอนกำลังหาผู้รับเหมาคงจะเกิดความกังวลขึ้นมาได้สารพัด จากที่เราเคยได้ยินมาว่าวงการนี้นั้นเขี้ยวลากดินกันทั้งนั้น เช่นแอบลดแบบ งานไม่เสร็จแล้วทิ้งงาน เบิกเงินก่อนแล้วไม่ทำงาน ฯลฯ จะทำอย่างไรดี ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
- ถ้าเป็นผู้รับเหมาที่เป็นคนรู้จักได้ก็ดี อย่างน้อยก็เกรงใจกันเห็นแก่ความสัมพันธ์กันบ้างครับ
- ดูผลงานเดิมว่าทำมามากแค่ไหน และงานออกมาดีแค่ไหน
- ติดต่อเช็คราคาหลายๆเจ้า และให้แต่ละรายทราบด้วยว่าเราเช็คราคา จะป้องกันการโก่งราคาได้ครับ
- ให้มีการเซ็นสัญญาพร้อม แบบ และรายการวัสดุ (BOQ) อย่างชัดเจน ซึ่งถ้าไม่มีแล้วมักจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายหลัง
- การจ่ายเงินเป็นงวดๆ ตรงนี้สำคัญมากครับ ถ้าคุณให้ผู้รับเหมากำไรมากในงวดงานช่วงแรกๆ แล้วกำไรน้อยในงวดหลัง ผู้รับเหมาเมื่อเบิกเงินงวดแรกแล้วอาจจะทิ้งงานได้ จึงต้องให้การเสนอราคาของผู้รับเหมาเป็นรายการวัสดุ (BOQ) ให้เราทราบว่ามูลค่างานแต่ละส่วนเป็นเท่าใด เมื่องานในแต่ละส่วนแล้วเสร็จมีการเบิกเงิน ควรจะมีการหักเงินบางส่วนไว้ ประมาณ 5-10 % เพื่อให้ผู้รับเหมามีเงินค้างไว้กับเรา แล้วไปได้กำไรในงวดสุดท้าย จะทำให้ผู้รับเหมาไม่ทิ้งงาน และเป็นการประกันผลงานได้บ้าง
- ถ้ามีเวลาก็ศึกษาหาข้อมูลในเรื่องงานก่อสร้างไว้
- คอยตรวจตราหน้างานอยู่เสมอ
สำหรับงานขนาดใหญ่ ควรจะมีวิศวกรที่ปรึกษาและคุมงาน สุดท้ายคงไม่มีอะไรได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่เชื่อว่าถ้าคุณเตรียมการดังกล่าวได้ดีแล้ว ผลที่ได้ก็น่าจะคุ้มกับการลงแรงครับ
นอกจากการเตรียมรับมือกับบรรดาผู้รับเหมาจอมเขี้ยวแล้ว อย่าลืมว่าวงการนี้ก็ยังมีคนดีๆ ทำงานตรงไปตรงมาอยู่ด้วย ในส่วนเจ้าของงานเองก็อย่ากดราคาจนเกินไปนะครับ ปัญหาอีกอย่างคือเจ้าของงานส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คนในวงการก่อสร้าง ตอนดูแบบอาจจะไม่เห็นภาพชัดนัก พอสร้างจริงปรากฏว่าไม่ค่อยตรงกับที่นึกภาพไว้แต่แรก มักจะมีการเปลี่ยนแปลง รื้อทุบ เพิ่มเติม ได้เสมอๆ หากมีมากๆเข้าผู้รับเหมาแย่เหมือนกัน ควรจะจ่ายในส่วนเพิ่มเติมแก้ไขด้วยครับ ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งซึ่ง BOQ จะเป็นตัวสรุปราคาส่วนเปลี่ยนแปลงให้คุณได้ ถึงจะจ่ายตามราคาแล้วก็ไม่ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป เพราะบางครั้งทำให้ล่าช้าจนงานผิดแผนออกไปมาก จะมีผลเสียทั้งสองฝ่าย ทางที่ดีตอนออกแบบพยายามดูแบบให้เข้าใจ เพื่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงหน้างานให้น้อยที่สุดครับ เมืองไทย มิใช่เมืองนอก อย่าทำตัวเป็นขี้ครอก เดินตามเขา (ตอนแรก)
จากการทำงานในวงการก่อสร้างมา หลายครั้งที่ผมได้มีส่วนเข้าไปร่วมรับรู้ขั้นตอนการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรม หรือบางครั้งเป็นงานระบบต่างๆ รวมทั้งจากสภาพงานก่อสร้างสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ออกแบบบ้านที่พบเห็นได้ทั่วไป ปัญหาที่พบได้เสมอ (ซึ่งเป็นปัญหาระดับรากเหง้าของสังคมไทย) คือการประยุกต์ใช้รูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมาะสมกับภูมิอากาศ และสภาพสังคมในบ้านเรา การขาดความเป็นตัวของตัวเองทางภูมิปัญญาของคนไทยในทุกระดับ แม้แต่ในแวดวง สถาปนิก วิศวกร แพทย์ ปัญญาชนบางคนของเรายังไม่ได้ค้นหาหนทางที่เหมาะกับท้องที่ มากเท่ากับการขวนขวายเดินตามชาวต่างชาติซึ่งก็ดี แต่ตามไปดูเค้ามาแล้วน่าจะวิธีการของเราเองด้วย ผมขอยกตัวอย่างในเรื่องการก่อสร้างนะครับ
ในการออกแบบสิ่งก่อสร้างหนึ่งๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรืออาคารเพื่อการพาณิชย์ใดๆ เราจะเห็นได้ว่ารูปทรงอาคารในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมจากประเทศพัฒนาแล้ว อย่างมาก โชคร้ายที่ส่วนใหญ่ประเทศพัฒนาแล้วมักมีอากาศหนาว หรืออย่างน้อยก็ไม่ร้อนเท่าเรา รูปแบบดังกล่าวจึงไม่ค่อยกลัวแดดกลัวฝนเท่าไร ผิดกับอากาศในเมืองไทยที่ร้อนชื้นฝนชุก (และแรงด้วย) สถาปัตยกรรมที่เหมาะกับประเทศเราจึงควรจะมีเรื่องชายคา(เช่นเรือนไทยโบราณ) หรือ แผงกันแดด ฟินต่างๆแบบสมัยใหม่เข้ามาเกี่ยวข้อง แน่นอนครับว่า สถาปัตยกรรมแบบไทยเดิมนั้นไม่เหมาะกับยุกต์ปัจจุบันแล้ว ครั้นจะใช้ตามแบบฝรั่งซะเลยก็ไม่เหมาะ การเลียนแบบโดยขาดความเข้าใจดังกล่าวทำให้อาคารสะสมความร้อน ระบายอากาศได้ไม่ดี ปัญหาน้ำรั่วซึม ฯลฯ ซึ่งหมายถึงการเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ค่าไฟฟ้า การสิ้นเปลืองพลังงาน
แม้จะไม่เหมาะสมอย่างไร แต่ค่านิยมของคนไทยหลายคนกลับมองว่ารูปแบบอาคารเมืองหนาวทันสมัย ดูดีกว่า หลายครั้งสถาปนิกก็เข้าใจเรื่องนี้ดี แต่เจ้าของโครงการผู้ว่าจ้าง ยังฝังหัวชอบตามก้นฝรั่งอยู่ อาคารแบบเตาอบยักษ์จึงมีปรากฎให้เราได้เห็นอยู่ทั่วไป หลายรายลงเอยด้วยการติดกันสาดเหล็กเพิ่มเติมประเภทอาคารโรมันกันสาดเฮียเม้ง ซึ่งจริงๆแล้วทำซะแต่แรกสถาปนิกสามารถออกแบบรูปแบบสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ากับตัวอาคารเป็นส่วนของอาคารที่คงทนถาวรไปเลย การก่อสร้างสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านง่ายและประหยัดกว่า
เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ไม่กี่ปีมานี้เรามีการตื่นตัวเรื่องอาคารประหยัดพลังงาน มีการประชาสัมพันธ์ในงานต่างๆจนเกิดผลขึ้นมา โครงการบ้านจัดสรรรุ่นหลังๆเริ่มมีการใช้แนวคิด การออกแบบที่เรียกว่า Tropical มากขึ้น (แต่ส่วนใหญ่จะยังค่อนข้างร้อนอยู่) มีการประกวดออกแบบบ้านสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ผมก็ได้แต่หวังว่าคนไทยเราจะมี พัฒนาการที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เมื่อมีโอกาสผมจะพูดเรื่องนี้กับเจ้าของโครงการเสมอ ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ก็จะมีผลต่อปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมอื่นๆอีกมาก เพราะมีรากเหง้าเดียวกันคือค่านิยมตามก้นฝรั่งจนเราเสียหายมากมาย แม้ว่าผมจะไม่ใช่สถาปนิกแต่ก็อยากให้เพื่อนๆพี่น้องสถาปนิกช่วยกันสร้างความเข้าใจนี้ให้กับคนในสังคมด้วยนะครับ ถ้ายังไม่เบื่ออ่านตอนสองต่อครับ (ส่วนคนเขียนกำลังมัน เขียนต่อทันที)
เมืองไทย มิใช่เมืองนอก อย่าทำตัวเป็นขี้ครอก เดินตามเขา (ตอนสอง)
ต่อครับ จากปัญหาเรื่องภูมิอากาศดังกล่าว เราจะทำอย่างไร ลองย้อนกลับไปดูภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเราบ้าง ตัวอย่างเช่นเรือนไทยภาคกลางซึ่งท่านผู้รู้ได้ แจกแจงข้อดีหลายๆอย่างไว้ให้เรานำมาใช้ได้ดังนี้
- วัสดุเป็นไม้ สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านซึ่งไม่อมความร้อนเหมือนปูนที่เรานิยมใช้กันในปัจจุบัน
- หลังคาสูงชัน สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านทำให้ไออากาศร้อนสามารถระบายออกทางช่องกระเบื้อง
- ชายคายื่นยาว สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน กันแดดกันฝน
- หน้าต่างรอบด้าน สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ระบายอากาศ
- การลดระดับของนอกชานสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ต่ำกว่าพื้นเรือน ทำให้เกิดช่องต่างระดับเป็นช่องที่ให้อากาศไหลเวียนได้
สรุปได้ว่าเรือนไทยเป็นรูปแบบทางสถาปัตยกรรมสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศมาก แต่นั่นคือในสมัยก่อนนะครับ ปัจจุบันไม้ราคาแพง กระเบื้องมุงหลังคาก็ไม่จำเป็น ต้องชันมาก(ซึ่งจะทำให้ค่าโครงสร้างแพง) ชายคายื่นยาวก็ดีแต่ต้องสอดคล้องกับระดับความสูงห้องเพื่อไม่ให้ผู้อยู่อาศัยภายในรู้สึกอึดอัด กล่าวคือใช้แนวคิดเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการให้เหมาะกับการใช้ชีวิต วัสดุและเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ตบท้ายนิดนึง ผมเคยได้ยินดอกเตอร์ทาง Traffic/Highway Engineering พูดเกี่ยวกับปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ แล้วอ้างมาตรฐานของ “พี่ผลาญ” ว่ามีพื้นที่ถนนมากกว่า (เป็นสัดส่วนกับพื้นที่เมืองทั้งหมด) ถ้างั้นแล้วเราจะเอาเครื่องบินรบที่ไหนไปปล้นน้ำมันแขกมาใช้ละครับ เมืองต้องขยายออกไปทำให้รถต้องวิ่งไกลขึ้นอีก แล้วญี่ปุ่น ฮ่องกงที่เแก้ปัญหาโดยใช้ระบบขนส่งมวลชนก็น่าพิจารณา เสียดายที่บางคนไปเรียนเมืองนอกได้กลับมาเป็นเชือกสนจมูกกับปลอกคอ แล้ว เราก็มีคนแบบนี้ในสาขาต่างๆอยู่ อันนี้ต้องช่วยกันแก้ทัศนะคติของคนไทยด้วยกันครับ
อ่า … side effect ของกาแฟพาไป ตอนหน้าผมจะเข้าเรื่องก่อสร้างดีกว่าครับ
เมืองไทย มิใช่เมืองนอก อย่าทำตัวเป็นขี้ครอก เดินตามเขา (ตอนสาม)
ที่ได้กล่าวไปแล้วเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมที่ควรจะเข้ากับสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ อันจะทำให้ผู้ใช้อาคารอยู่ได้อย่างสบายหรืออย่างน้อยก็ใช้พลังงานน้อยๆ เท่าที่จำเป็น ยังมีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เรายังเคยชินกับมาตรฐานฝรั่งอยู่ ซึ่งบางสถานการณ์ผมคิดว่าน่าจะลองหาทางเลือกอื่นๆบ้าง เช่น โถปัสสาวะชายที่นิยมใช้กันมากตอนนี้ เราลองดูตามปั๊มน้ำมันต่างๆ มักจะตัน เนื่องจากคนไทยเราหลายคนยังไม่ระวังเท่าที่ควร ทิ้งก้นบุหรี่ หมากฝรั่งลงไป (ไม่ค่อยมีช่างที่ไหนอยากมาซ่อมด้วย นะครับ) บางที่ก็หายซึ่งถ้าเป็นประเทศที่เศรษฐกิจดีคงไม่มีใครเอาของแบบนี้ จริงอยู่มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ต้องยอมรับว่าเรายังพัฒนาประเทศได้ไม่ทั่วถึงจริงๆ คนแบบนี้ยังมีอยู่มาก
เจ้าโถแบบนี้ถ้าเป็นการใช้งานในประเทศที่พัฒนาแล้ว คงไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่สำหรับเมืองไทย สุดท้ายมักลงเอยด้วยอาการตัน (ยกเว้นในอาคารสำนักงานที่ ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีการศึกษา) หรือเจ้าของปั๊มต้องเปลี่ยนตัวดักกลิ่นออกแล้วต่อเป็นท่องอระบายน้ำ PVC ธรรมดา ซึ่งไม่กันกลิ่น ปัญหานี้มีมานานแล้ว เราก็ยังชินกับ ปั๊มน้ำมันที่มีแต่ท่อตัน ก็อกรั่ว โดยผู้ออกแบบสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านยังคงใช้มาตรฐานเดิมโดยไม่คิดถึงความเป็นจริงของคนในพื้นที่ กล่าวคือสถานที่สาธารณะในประเทศกำลังพัฒนานั้น อุปกรณ์ต่างๆต้อง Heavy Duty จริงๆ
ตัวอย่างที่ดีคือ บางที่จะไม่ใช้โถแล้วเปลี่ยนมาเป็นรางเปิดแทน ซึ่งไม่มีกลไกซับซ้อนอะไรที่จะมีปัญหาเพียงแต่ต้องเล่นกับถังพักดักเศษขยะเป็นเท่านั้น นับเป็นรูปแบบ ที่เหมาะกับท้องถิ่นอีกอัน นอกจากตามก้นฝรั่งแล้ว เรายังตามคนจีนในเรื่องฮวงจุ้ยอีก (ผมได้เขียนบทความไว้แล้ว) หรือแม้แต่ความเชื่อโบราณของไทยเราเอง ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือการเชื่อโดยที่ยัง ไม่เข้าใจสาเหตุที่มา เรื่องแบบนี้ยังมีอีกมาก ผมเองก็อาจจะเห็นในบางเรื่องบางมุมเท่านั้น ถ้าท่านมีอะไรแนะนำก็ส่งมาได้ทางเว็บบอร์ดนะครับ
จะเอาอะไร เท่าไหร่ดี
ไม่ได้กวนนะครับ แต่เป็นคำถามที่เจ้าของบ้านมักจะถามผู้ออกแบบเสมอ เรื่องส่วนประกอบของอาคารทั่วๆไป ความจริงหลายๆอันก็เป็นเรื่องเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละโครงการ แต่ก็มีแนวทางอยู่บ้างที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ คือเป็นเรื่องของ Ergonomics ที่น่าจะเหมาะกับรูปร่างของคนไทย อย่างเช่น
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านระดับพื้นบ้านชั้นล่างสูงกว่าดินถมรอบบ้าน — 50 ซม. เป็นระดับที่พบเห็นได้บ่อย ทำให้ตัวบ้านสูงกว่าที่ดินรอบข้างพอสมควร แต่ลูกขั้นบันไดทางเข้าบ้านไม่มากเกินไป
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านความสูงระหว่างชั้น — ตามกฎหมายกำหนด 2.60 เมตร เป็นความสูงระหว่างพื้นแต่ละชั้น (ซึ่งรวมระดับท้องคานไว้แล้ว) การใช้งานจริงน่าจะกำหนดที่ระดับฝ้าสูงจากพื้น 2.60 เมตร สำหรับบ้านขนาดกลางทั่วไป และมากกว่านี้ถ้าพื้นที่กว้าง
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านระยะความสูงของขั้นบันได — ลูกตั้ง 18 ซม. ลูกนอน 22 ซม. (ประมาณ) ลูกตั้งอาจน้อยกว่านี้สำหรับสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านโรงเรียนอนุบาล หรือบ้านพักคนชรา •ความกว้างบันได — 1.20 เมตรสำหรับพื้นที่จำกัด
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านความกว้างประตูต่างๆ(วัดที่บาน) — ประตูหน้าบ้านควรเป็นบานคู่หรือบานเดี่ยวกว้างๆ / ประตูหลังบ้าน 90 ซม. / ประตูห้องภายใน 80 ซม. / ประตูห้องน้ำ 70 ซม.
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านพื้นที่ห้องน้ำอย่างน้อย — 1.20 x 2.00 (วัดที่ผนังภายใน) •ระดับสวิทช์ไฟแสงสว่าง — 1.20 เมตรจากระดับพื้น หรือต่ำกว่าไหล่เล็กน้อย
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านระดับติดตั้งสุขภัณฑ์ต่างๆ — ทดลองเทียบกับตัวเจ้าของห้อง หรือใช้คนตัวเล็กเป็นมาตรฐานสำหรับห้องน้ำรับแขก
- สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านระเบียง — สำหรับระเบียงห้องส่วนตัวไม่มีข้อกำหนด อาจจะใช้ความกว้างเพียง 60-80 ซม.ก็ได้ถ้าถูกจำกัดโดยงบประมาณ หรือรูปแบบภายนอก ระเบียงยาวที่เดินเชื่อมจุดต่างๆได้ ควรใช้ความกว้าง 1.00 เมตรขึ้นไป (บ้านส่วนตัว) อาคารสาธารณะต้องดูปริมาณคนอีกทีครับ
ระยะดังกล่าวอาจปรับแก้ได้ตามความรู้สึก พื้นที่ และงบประมาณของเจ้าของบ้านนะครับ ควรปรึกษาสถาปนิกในขั้นตอนออกแบบครับ
บันได ไม่ใช่ไม่สำคัญ
บันไดนอกจากจะใช้ในการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างชั้นแล้ว ยังสามารถออกแบบสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านให้เป็นบริเวณที่ช่วยถ่ายเทอากาศ นำแสงเข้าตัวบ้าน และเป็นจุดหนึ่งที่อันตรายเช่นเดียวกับ ห้องน้ำ โดยเฉพาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือ คนชรา จึงไม่ใช่เรื่องที่เรามองข้ามได้เลยนะครับ มีข้อควรระวังดังนี้ครับ
- ระยะลูกตั้งลูกนอน ประมาณ 18 x 22 (ลูกตั้ง ลูกนอน) หรือลูกตั้งน้อยกว่านี้สำหรับสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านที่มีเด็กเล็กมาก หรือคนชรา
- ความกว้างบันได — 1.20 เมตรสำหรับพื้นที่จำกัด ซึ่งความกว้างบันไดสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านจะเป็นตัวจำกัดขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่คุณจะนำขึ้นไปได้
- ความสว่าง โถงบันไดต้องสว่างทั้งวันทั้งคืน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อนำแสงเข้าในเวลากลางวัน และมีโคมไฟสำหรับเวลากลางคืน
- ลูกบันไดต้องไม่ลื่น กรณีของสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน ที่บันไดคอนกรีตปูกระเบื้อง ควรมีจมูกบันไดเป็นพลาสติกกันลื่น บันไดไม้อยู่ที่วัสดุทาและระวังอย่าให้เปียก อาจจะใช้เทปกาวที่มีผิวฝืดช่วยก็ได้ครับ
- หลายๆบ้านที่มีพื้นที่จำกัด สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านโถงกลางภายในบ้านชั้นบนที่เชื่อมต่อห้องนอนต่างๆอาจจะเล็กแคบ อึดอัดเกินไป การที่โถงบันไดมีช่องหน้าต่าง หรือกระจกกว้างๆ นอกจากช่วยนำแสงเข้าบ้าน แล้วยังช่วยให้ทางเชื่อมแคบๆ ไม่ดูอึดอัดเกินไปได้ครับ
โถงบันไดเป็นจุดที่สำคัญมากในบ้านทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยแล้ว โถงบันไดที่มีช่องแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามา และมีโคมไฟสำหรับให้ความสว่างในเวลากลางคืนอย่างเพียงพอ ระยะลูกตั้งลูกนอนที่ไม่ชันนัก ก้าวขาได้ง่าย ราวมือจับมั่นคงแข็งแรง เหล่านี้ต้องมาก่อน เพื่อเป็นการลดอัตราเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุ
นอกจากนั้น โถงบันไดยังสามารถใช้เป็นที่ว่างสำหรับถ่ายเทอากาศ ดึงแสงธรรมชาติเข้าสูตัวบ้านทั้งสองชั้น นับว่าเป็นจุดหลักจุดหนึ่งของการจัดวางพื้นที่เลยนะครับ ศึกษาแบบ (พิมพ์เขียว) ดีๆไม่มีบานปลาย ปรกติของงานก่อสร้าง ในขั้นตอนการออกแบบที่มีการพูดคุยปรับแก้จนแบบลงตัวเป็นที่พอใจของเจ้าของงาน และสถาปนิกเห็นว่าไม่มีจุดด้อยที่ร้ายแรงแล้ว ก็จะนำแบบให้ผู้รับเหมาตีราคาเพื่อตกลงทำสัญญาก่อสร้างสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านต่อไป แต่โดยทั่วไปเจ้าของบ้านมักไม่ใช่คนในวงการก่อสร้างสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน การอ่านแบบแล้วนึกภาพตามอาจมีคลาดเคลื่อนจากความเป็น จริงบ้าง หรือบางครั้งระหว่างงานก่อสร้าง เจ้าของงานเกิดความคิดเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ และหลายครั้งความต้องการดังกล่าวก็คุ้มค่าพอที่จะยอมเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามอยากให้ตะหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงต่างๆดังนี้
- งานก่อสร้างสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านล่าช้าไปบ้าง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- การคิดมูลค่างาน สำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านตามสัญญาเรามีรายการราคาเป็น BOQ ซึ่งจะใช้เป็นมาตรฐานในการเพิ่มลดมูลค่างานได้
- การเปลี่ยนแปลงที่จะต้องทุบรื้องานที่ทำไปแล้วนั้นท่านยังต้องจ่ายในค่าก่อสร้างสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้านของงานที่รื้อพร้อมค่าแรงรื้อด้วย และถ้าหากมีการรื้อมากอาจมีผลทางจิตวิทยา คุณภาพงานอาจจะลดลงเนื่องจากช่างไม่มั่นใจว่าทำไปแล้วต้องรื้อหรือไม่ (แม้ว่าจะมีค่ารื้อต่างๆให้อย่างยุติธรรมแล้วก็ตาม)
ทางที่ดีในขั้นตอนการออกแบบสำหรับ สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน เจ้าของงานควรศึกษาแบบอย่างละเอียดในทุกแง่มุม ปรึกษาพูดคุยกับผู้ออกแบบคือสถาปนิกและวิศวกรจนเข้าใจ เพื่อการเปลี่ยนแปลงแบบขณะก่อสร้างจะได้มีน้อยที่สุด นั่นหมายถึงการประหยัดเงินของท่านเอง การเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจจะมีผลต่อโครงสร้าง เช่นการเพิ่มกำแพงซึ่งโครงสร้างตามแบบไม่ได้มีการเตรียมรับน้ำหนักไว้ อันอาจจะเป็นอันตรายต่อโครงสร้างได้ ควรใช้เป็นผนังเบาซึ่งสามารถเพิ่มลดได้อย่างอิสระโดยไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้าง เช่น ผนังยิบซั่มสำหรับพื้นที่ภายใน หรือผนังซีเมนต์ไฟเบอร์สำหรับภายนอกครับ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน เรื่องของรู้จักกับมืออาชีพ วิศวกร สถาปนิก มัณฑนากร ผู้รับเหมา สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน
ที่มา : http://se-net/stonebase