16ไอเดียสุดล้ำออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศสุดเก๋(ตอนที่ 2)

16ไอเดียสุดล้ำออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศสุดเก๋(ตอนที่ 2) ในปัจจุบันนี้มีหลาย ๆ บริษัทที่เลือกเปลี่ยนบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศแทนการทำงานในออฟฟิศบิวดิ้ง ด้วยทำสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีความเป็นอิสระในการทำงาน การดูแลรักษาที่สะดวกสบาย และสามรถตกแต่งโฮมออฟฟิศได้ตามสไตล์ของเจ้าของบ้าน ทั้งยังไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดเพื่อเข้าไปทำงานในเมืองอีกด้วย และในวันนี้ Homemax ก็จะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับ อีก 8 ไอเดียล้ำ ๆ ที่จะออกแบบบ้านให้เป็นโฮมอฟฟิศได้ในสไตล์ที่เป็นคุณ

สร้างพื้นที่เก็บของอย่างมีสไตล์

ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศบิวดิ้งหรือโฮมออฟิศ พื้นที่เก็บของถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะทุกออฟฟิศย่อมมีเอกสารที่ต้องเก็บ รวมถึงของใช้ต่าง ๆ ภายในสำนักงาน ซึ่งเราสามารถออกแบบบ้านให้มีสันส่วนในการเก็บของที่สะดวกในการหยิบใช้งานได้ง่าย หรือจะออกแบบบ้านให้มีมุมเก็บของให้มีสไตล์เฉพาะของตัวเอง ในพื้นที่ที่มีภายในออฟฟิศนั่นเอง

เพิ่มพื้นที่เก็บของตามจุดต่าง ๆ

การออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศนั้น เราสามารถเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของได้ง่าย ๆ เช่น การออกแบบบ้านให้บริเวณคอร์เนอร์ตามโต๊ะทำงานหรือทางเดิน เปลี่ยนจากผนังทึบ ๆ ให้เป็นพื้นที่เก็บของโดยการใส่ลูกเล่นที่เป็นชั้นวางของเพิ่มเติม รวมถึงการทำชั้นวางของบิลท์อินล้อมรอบด้วยไม้เนื้อแข็งให้มีความสูงประมาณ 1.20 – 1.50 เมตร และความกว้างของชั้นประมาณ 25 – 30 เซนติเมตร ให้พอดีหรือมากกว่าขนาดความกว้างของนิตยสารสักเล็กน้อย แบ่งเป็นช่องย่อย ๆ เพื่อช่วยกระจายน้ำหนัก และเป็นการแบ่งหมวดหมู่ให้ค้นหาสิ่งของได้ง่ายขึ้น

เปลี่ยนชานพักบันไดให้เป็นโซนเก็บของสุดเก๋

การออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศนั้น จะต้องมีการออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด ซึ่งการออกแบบบ้านพื้นที่บริเวณชานพักบันไดเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของได้เช่นกัน โดยเราสามารถออกแบบบ้านด้วยการทำบิลท์อินด้วยไม้เนื้อแข็งให้ยื่นออกมาจากผนังประมาณ 30 เซนติเมตร แบ่งชั้นออกเป็นช่องย่อย ๆ เพื่อให้สามารถกระจายน้ำหนักได้ และอาจจะทำตู้บิลท์อินให้มีประตูเปิด-ปิด เพื่อใช้ในการเก็บของสำคัญในบริเวณเหนือชั้นวางของ เพื่อการเก็บของที่เป็นสัดส่วน ปลอดภัย และอยู่ในระยะที่เอื้อมถึง เพียงเท่านี้เราก็สามารถออกแบบบ้านให้มีที่เก็บของเพิ่มขึ้นได้แล้ว

ออกแบบชั้นหนังสือให้เป็นที่เก็บของ

การอัพเดทข้อมูลของออฟฟิศส่วนใหญ่ก็จะอัพเดทข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในบางออฟฟิศก็จะอัพเดทข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางหนังสือหรือในตำราต่าง ๆ อยู่เสมอ ฉะนั้นลองออกแบบบ้านโดยให้มีการเพิ่มพื้นที่เก็บของ ซึ่งอาจจะทำหน้าที่เป็นชั้นเก็บหนังสือได้ในตัว อย่างการออกแบบบ้านให้มีชั้นหนังสือแบบเต็มผนังที่มีความสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทนทานและรับน้ำหนักได้ดี อย่างโครงไม้เนื้อแข็งหรือโครงเหล็กสุดเท่ได้

มุมกาแฟสำหรับพนังงานในว่าไม่จำเป็น

ในการออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องออกแบบบ้านให้มีพื้นที่หลักในการใช้งานเท่านั้น แต่การออกแบบบ้านให้มีพื้นที่รองหรือส่วนเซอร์วิสต่าง ๆ สำหรับพนักงานก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นมุมกาแฟ พื้นที่พักผ่อน ไปจนถึงฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับโฮมออฟฟิศของคุณ ซึ่งอาจเป็นการทำเพิ่มหรือต่อเติมขึ้นมาใหม่ โดยไม่เข้าไปวุ่นวายกับส่วนต่าง ๆ ในบ้านเดิม

ปรับห้องครัวให้เป็นมุมชงกาแฟ

สิ่งที่หนุ่มสาวออฟฟิศจะขาดไม่ได้เลยก็คือการดื่มกาแฟ หรือแม้แต่การอุ่นอาหารแบบง่าย ๆ ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ออฟฟิศทั่วไปขาดไม่ได้ ฉะนั้นในการออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศนั้น ลองออกแบบบ้านให้มีการปรับเปลี่ยนห้องครัวเป็นมุมกาแฟสำหรับพนักงาน หรือจะทำแพนทรี่เล็ก ๆ อาจจะเป็นทางเดินก่อนไปห้องน้ำ ที่มีขนาดยาวประมาณ 2 เมตร แพนทรี่ควรมีความสูงประมาณ 80 เซนติเมตร สำหรับติดตั้งซิงค์ล่างจานและเตรียมอาหาร ด้านบนออกแบบบ้านโดยการทำตู้บิลท์อินยาวตลอดแนว แบ่งเป็นช่อง ๆ สำหรับเก็บเครื่องครัว และแฟ้มเอกสารบางส่วน ด้านล่างแบ่งเป็นชั้นวางของให้เห็นง่าย หรือหากพื้นที่บนโต๊ะมีไม่มากก็สามารถใช้ส่วนนี้วางเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไมโครเวฟได้

มุมนั่งเล่นสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

สำหรับการออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศบางที่ก็มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม แต่บางออฟฟิศก็เป็นตึกแถวหรือทาวน์โฮมนั้น ให้ลองออกแบบบ้านให้มีระเบียงยื่นออกมา เพื่อให้พนักงานได้เดินออกไปสูดอากาศภายนอก หรือจะออกแบบบ้านให้บริเวณนี้เป็นมุมนั่งเล่นก็ได้เช่นกัน โดยการปรับเปลี่ยนจากหน้าต่างมาเป็นประตูบานเฟี้ยม และต่อเติมโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรงยื่นออกมาประมาณ 80 – 100 เซนติเมตร กรุด้านข้างและพื้นด้วยตะแกรงเหล็กฉีก และกรุด้านหน้าด้วยอิฐบล็อกช่วยบังสายตาในระดับหนึ่ง แต่ยังคงความโปร่งโล่งถ่ายเทอากาศได้สะดวก

ออกแบบที่เก็บรองเท้าให้เป็นสัดส่วน

สำหรับข้อนี้คือโบนัสที่ขอแถมให้ โดยการออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศนั้น สามารถเพิ่มความสะอาด ความสวยงามของออฟฟิศและความเป็นสัดส่วนได้ โดยการออกแบบบ้านให้พื้นที่เก็บรองเท้าให้เป็นสัดส่วนตั้งแต่หน้าบ้าน กับชั้นแผ่นซีเมนต์ขนาดความกว้าง 30 เซนติเมตร คูณกับความยาวของผนัง แนะนำว่าควรให้แผ่นซีเมนต์มีความหนาตั้งแต่ 5 เซนติเมตร ขึ้นไป วางขั้นด้วยไม้เนื้อแข็งสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เพื่อรับน้ำหนัก และโชว์ลูกเล่นการผสมผสานวัสดุที่แตกต่างกัน นั่นเอง

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับการออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศที่ Homemax ได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ในครั้งนี้ หวังว่าจะทำให้เพื่อน ๆ ได้ไอเดียในการออกแบบบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศที่มีสไตล์เป็นของตนเองมากยิ่งขึ้นนะคะ

สำหรับใครที่ต้องการออกแบบบ้าน หรือต้องการผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านที่พร้อมจะให้คำปรึกษากับคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อมาที่เราสิคะ เพราะบริษัท Homemax เรามีผู้เชี่ยวชาญงานสำหรับการออกแบบบ้าน หมุนเวียนสร้างบ้าน มากกว่า 200 คน พร้อมทรัพยากรต่าง ๆ อาทิเช่น กำลังคน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ในการสร้างบ้านมากเพียงพอต่อการสร้างบ้านแด่

รวมไปถึงสร้างบ้านด้านงานสถาปัตยกรรมเต็มรูปแบบ และเราพร้อมที่จะขยายจำนวนแรงงานอย่างต่อเนื่องตามปริมาณงานสร้างบ้าน และจากศักยภาพของทีมงานมืออาชีพของบริษัท Homemax จึงสามารถขยายสายงานธุรกิจด้านการสร้างบ้านเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีที่ดินเป็นของตนเองและต้องการปลูกสร้างบ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเหมาะสมกับการใช้งานพื้นฐานของแต่ละครัวเรือน ในงบประมาณที่ควบคุมได้

แหล่งข้อมูลจาก : https://www.baanlaesuan.com

บทความที่เกี่ยวข้อง